เดือน |
ชื่อวัฒนธรรม ประเพณี |
ลักษณะวัฒนธรรม ประเพณี |
มกราคม |
1. บุญข้าวใหม่ |
เป็นเดือนที่ชาวบ้านขึ้นข้าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นำข้าวใส่ยุ้งฉางโดยจะจัดเตรียมอาหารสำหรับทำบุญ ประกอบด้วย ทำข้าวจี่ ข้าวหลาม ฟืนไม้จี่พระเจ้า ฟางข้าว ข้าวสาร ข้าวเปลือก และจะนิยมปลูกบ้าน จัดงานแต่งงาน งานบวชนาค งานขึ้นบ้านใหม่ |
กุมภาพันธ์ |
1. บูชาศาลพระภูมิ
2. เลี้ยงพ่อหลวง |
-เป็นการบูชาศาลพระภูมิเพื่อดูแลปกปักรักษาบ้านหรือเจ้าของบ้าน
-เป็นการเลี้ยงผีปู่ ผีย่า ผีตา ผียาย
|
มีนาคม |
1. เทศน์มหาชาติ |
มีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า จากนั้นจึงนิมนต์พระจากวัดอื่นมาเทศน์ วัดละ 1 รูป วันละ 1 รูปเพื่อเทศน์ในช่วงเย็น |
เมษายน |
1. ประเพณีวันสงกรานต์
2. ประเพณีขึ้นธาตุแก่งสร้อย
3. ประเพณีขึ้นพระพุทธเขาหนาม |
มีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า จากนั้นจึงสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในหมู่บ้าน |
พฤษภาคม |
1. วันวิสาขบูชา |
ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญตักบาตร ในตอนบ่ายมีการฟังเทศน์ ในตอนเย็นทำวัดเย็น และเวียนเทียน |
มิถุนายน |
1. บุญบั้งไฟหรือบุญเดือนหก |
มีการแห่บั้งไฟและจุดบั้งไฟถวายหรือบูชาเทพยดาอารักษ์หลักบ้านหลักเมืองเพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลเพื่อให้ทำไร่ทำนาได้อุดมสมบูรณ์ |
กรกฏาคม |
1.แห่เทียนเข้าพรรษา |
ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมกับหน่วยงานต่างๆ นำเทียนจำนำพรรษามาถวายที่วัด เมื่อถึงวันเข้าพรรษาจะมีการตักบาตรทำบุญ พุทธศาสนิกชนในหมู่บ้านจะมาสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวันพระตลอดช่วงเข้าพรรษา |
สิงหาคม |
1.วันแม่แห่งชาติ |
จัดพระบรมฉายาลักษณ์และสมุดลงนามถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มาร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ |
กันยายน |
1.ตานก๋วยสลากภัตรหรือ พิธีทำบุญสลากภัตร
2.ประเพณีเรียกขวัญกินข้าวห่อ |
ชาวบ้านจะร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้ง และของใช้ที่จำเป็นมาใส่ชะลอมทั้งขนาดเล็ก ใหญ่ ไปสลับกันโดยจะไม่รู้ว่าสลากของตัวเองจะอยู่ที่ใดโดยจะอุทิศให้กับผู้ล่วงลับหรือเจ้ากรรมนายเวณ |
ตุลาคม |
1.ประเพณีออกพรรษา
2.ประเพณีรับท้องข้าว
|
-ชาวบ้านจะทำขนม เช่นขนมเทียน ข้าวต้มมัด ขนมแตง ขนมกล้วย ขนมจีน และอาหารคราวหวาน ไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศให้กับเทวดาเจ้ากรรมนายเวณ
-เป็นการรับท้องข้าวโดยการนำผลไม้หรือขนมที่ไม่ได้ทำจากข้าวจากการไปทำบุญที่วัดในตอนเช้านำไปรับท้องข้าวซึ่งเป็นความเชื่อของปู่ ย่า ตา ยาย เชื่อกันว่าข้าวจะออกเต็มร่วง
|
พฤศจิกายน |
1.ลอยกระทง
2.ประเพณีเกี่ยวข้าว
3.ประเพณีรับขวัญข้าว
|
-จัดกิจกรรมลอยกระทงในหมู่บ้านบริเวณแม่น้ำวังและจะมีการถวายผ้าทอดตักซึ่งเป็นผ้าเช็ดตัวสำหรับพระภิกษุ
-เป็นความเชื่ออีกแบบคือ ผู้ที่เกิดในปีขาลและมะเส็งจะเป็นผู้ที่เริ่มเกี่ยวก่อนเป็นคนแรก(ในภาษาเหนือเรียกว่า?แฮก?)
-เป็นการนำข้าวที่ตกหล่นใส่กระบุงหรือตะกร้า ไข่ แป้ง หวี กระจก กล้วย อ้อย และภาวนาอัญเชิญเจ้าแม่โพสพขึ้นสู่ยุ้งฉาง
|
ธันวาคม |
1.วันพ่อแห่งชาติ |
จัดพระบรมฉายาลักษณ์และสมุดลงนามถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ |
เดือน |
การทำงาน |
ลักษณะของการทำงาน |
|
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ถางไร่เพื่อทำการเกษตร
5. ทำประมง
6. จักสานไม้ไผ่
7. ขับเรือโดยสาร
8. ทอผ้า
9. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
|
|
กุมภาพันธ์ |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
|
|
มีนาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ตีผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง
10.ปลูกข้าวโพด |
|
เมษายน |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ตีผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง
10.ปลูกข้าวโพด
11.เก็บผักหวาน |
|
พฤษภาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ปลูกข้าวไร่
10.ปลูกข้าวโพด |
|
มิถุนายน |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ปลูกข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน
11.หาหน่อไม้ |
|
กรกฏาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ปลูกข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน
11.หาหน่อไม้ |
|
สิงหาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ปลูกข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน
11.หาหน่อไม้ |
|
กันยายน |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. ปลูกข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน
|
|
ตุลาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. หาเห็ดโคน
10.ปลูกพืชสวน |
|
พฤศจิกายน |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน |
|
ธันวาคม |
1. ค้าขาย
2. รับจ้างภาคการเกษตร
3. รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
4. ทำประมง
5. จักสานไม้ไผ่
6. ขับเรือโดยสาร
7. ทอผ้า
8. เลี้ยงสัตว์ (หมู ไก่ เป็ดเทศ วัว)
9. เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าวไร่
10.ปลูกพืชสวน |
|
เดือน |
เหตุการณ์ / ปรากฎการณ์ |
ลักษณะของปรากฎการณ์/ผลกระทบ |
มกราคม |
การถางไร่จะเริ่มในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 2 หรือปลายเดือนมกราคม (สำหรับ ชาวบ้าน หมู่ 1,2,3 ) |
การถางไร่ของชาวบ้านในตำบลบ้านนาเป็นของพี่น้องชนเผ่าปกากะญอในหมู่ 1-3 |
กุมภาพันธ์ |
การถางไร่จะเสร็จสิ้นประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ |
ถ้าสมาชิกในชุมชนถางไร่ไม่ได้ชาวบ้านก็จะมาช่วยกัน เพราะจะมีผลต่อการเผ่าไร่ |
มีนาคม |
ตากไร่ที่ถางไว้ประมาณ 1 เดือนเพื่อให้ไม้แห้งสนิท |
ถ้าสมาชิกในชุมชนถางไร่ไม่ได้ชาวบ้านก็จะมาช่วยกัน เพราะจะมีผลต่อการเผ่าไร่ |
เมษายน |
ต้นเดือนก็จะเผ่าไร่เพราะบ้างครั้งในช่วงเดือนนี้จะมีฝนตกลงมาเป็นครั้งคราว |
ชาวบ้านทั้งหมดต้องการให้ไหม้ดีในการเผาไร่ เพราะวัชพืชไม่มาก ข้าวงามดี หลังการเผ่าไร่เป็นการรื้อไร่ |
พฤษภาคม |
1.เก็บรวบรวมไม้ที่ไหม้ไฟไม่หมดมากองและเผา
2.เริ่มเข้าฤดูฝน
3.การหยอดข้าวเริ่มในช่วงปลายเดือน
|
1.ฝนตกทำให้ดินเริ่มเกิดความชุ่มชื้น
2.การเลือกช่วงเวลาจะพิจารณาฝนตกจนดินชุ่มฉ่ำและคาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องการหยอดข้าวแล้วฝนแล้ง นกจะมากินข้างเชื้อที่หยอดไว้ การคาดการณ์ฝนตกจะใช้พฤติกรรมสัตว์บางชนิด (3) เช่น หิ่งห้อยบินสูงกว่าปกติแสดงว่าฝนจะเริ่มตก หรือเริ่มได้ยินเสียงกบในป่า
|
มิถุนายน |
1. การหยอดข้าวจะสินสุดต้นเดือนมิถุนายน
2. เริ่มมีของป่า (หน่อไม้) มากขึ้น
|
1. ก่อนการหยอดข้าว เจ้าของไร่ต้องทำพิธีบอกกับพิบุ๊โย หรือแม่โพสพ เพื่อให้พิบุ๊โยลงจากสวรรค์มาคุ้มครองรักษาต้นข้าวให้ปราศจากโรคและศัตรูพืชเบียดเบียน จนกระทั่งเก็บเกี่ยวและนำข้าวขึ้นยุ้งฉาง
2. ชาวบ้านเริ่มเก็บหาของป่า (หน่อไม้) ไว้บริโภค และขายเป็นรายได้
|
กรกฏาคม |
1.ฤดูฝน
2.วัชพืชโตเร็วและต้นข้าวยังเล็ก
|
1. พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
2. หลังจากหยอดข้าวแล้ว เจ้าของต้องดายหญ้าเป็นรอบที่ 1
|
สิงหาคม |
1.ฤดูฝน
2.วัชพืชโตเร็วและต้นข้าวยังเล็ก
|
1. พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
2. หลังจากหยอดข้าวแล้ว เจ้าของต้องดายหญ้าเป็นรอบที่ 2 ต่อเนื่องกัน เพราะวัชพืชโตเร็ว และต้นข้าวยังเล็ก
|
กันยายน |
1.วัชพืชโตเร็วและต้นข้าวใหญ่
2.เห็ดโคนออก
|
1. หลังจากหยอดข้าวแล้ว เจ้าของต้องดายหญ้าเป็นรอบที่ 3 ต่อเนื่องกัน เพราะวัชพืชโตเร็ว และต้นข้าวใหญ่แล้วจึงกำจัดวัชพืชได้เร็วขึ้น
2.ชาวบ้านออกเก็บเห็ดโคนเพื่อบริโภคและขายเป็นรายได้
|
ตุลาคม |
1. ช่วงปลายเดือนตุลาคมข้าวจะสุก
2.เห็ดไข่ห่าน ไข่เหลืองออก
|
1.ชาวบ้านจะทำการเก็บเกี่ยว ในอดีตการเกี่ยวข้าวและตีข้าวจะเป็นการลงแขกเกี่ยวข้าว หลังจากการเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว เจ้าของไร่จะรวบรวมข้าวด้วยการแบกข้าว การแบกจะกองมัดข้าวในเสื่อลำแพนที่เตรียมช่วงเดือนกันยายน แล้วแบกไปกองรวมกัน
2. ชาวบ้านเริ่มมีรายได้จากการขายเห็ดไข่ห่าน ไข่เหลือง
|
พฤศจิกายน |
เริ่มเข้าฤดูหนาว |
1ชาวบ้านเกี่ยวข้าวนาปีและข้าวไร่ |
ธันวาคม |
อากาศมีความหนาวเย็น |
1. ชาวบ้านเริ่มเกี่ยวข้าวนาปีและข้าวไร่ |