เดือน |
ชื่อวัฒนธรรม ประเพณี |
ลักษณะวัฒนธรรม ประเพณี |
ธันวาคม |
ส่งเคราะห์หมู่บ้าน (วอฮิ)
|
-ชาวบ้านจะนำไม้ไผ่มาสานเป็นตะแกรง เพื่อที่จะใส่ของซึ่งประกอขอให้สิ่งด้วย ข้าว ขนม ดอกไม้ ผลไม้ต่างๆอีกทั้ง เศษด้ายมารวมกัน แล้วจุดเทียน 2 เล่ม ขอขมาสิ่งศักดิ์ และขอให้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในหมู่บ้านปกป้องรักษาคุ้มครองให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข |
มกราคม |
-ขึ้นปีใหม่/มัดมือขึ้นปีใหม่
-ประเพณีแต่งงาน
|
-เป็นการรวมตัวของลูกหลานเพื่อทำพิธีมัดมือ/ผูกข้อมือให้อยู่เย็นเป็นสุขเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว
-เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เสร็จจากการทำไร่ทำนา ว่างจากการทำงาน อีกทั้งเป็นการบ่งบอกว่าผู้แต่งงานนั้นมีความรักใคร่ต่อกัน พร้อมที่จะดำเนินชีวิตร่วมกัน และพร้อมที่จะเป็นครอบครัว
|
เมษายน |
-วันสงกรานต์ |
ชาวบ้านถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชุมชน เนื่องจากลูกหลานที่จากไปไกล เช่น ไปเรียนหนังสือ ไปทำงานเมือง กลับมารดน้ำ ดำหัวผู้สูงอายุและพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่นับถือจะมัดมือให้ศีลให้พรกับลูกหลาน |
พฤษภาคม |
-มัดมือ(กีจือลาขุ) |
มีการมัดมือให้กับบุตรหลานทุกครัวเรือน มีการเชิญผู้สูงอายุหรือผู้ใหญ่มีอายุมากที่สุดในชุมชนมามัดมืออวยพรให้กับบุตร |
กรกฏาคม |
เลี้ยงผีไร่/ผีนา(แสะขึ/แสะจิ)
|
เป็นพิธีเพื่อขอไหว้ เลี้ยงผีไร่ ผีนา เพื่อขอให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรที่เพาะปลูกไว้มีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตเจริญงอกงามดี
อุปกรณ์ที่ใช้เลี้ยงผี
-เหล้า 2 ขวด ?ไก่ 2 ตัว - ด้าย 1 ตัว ?ข้าวต้มมัด
ข้าวเหนียวงา(เหม่โต้ปิ)
|
เดือน |
การทำงาน |
ลักษณะของการทำงาน |
มกราคม |
ค้าขาย |
ช่วงฤดูกาลเตรียมไร่เพื่อการเพาะปลูก |
มกราคม |
ค้าขาย รับจ้างภาคการเกษตร จักสานไม้ไผ่ เก็บใบตองตึง ทอผ้า |
ช่วงฤดูกาลเตรียมไร่เพื่อการเพาะปลูก |
กุมภาพันธ์ |
ค้าขาย รับจ้าง ถางไร่เพื่อทำการเกาตร ปลูกพืชสวน จักสานไม้ไผ่ ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลเตรียมไร่เพื่อการเพาะปลูก ในส่วนที่เหลือก็จะทำงานภายในครัวเรือน และรับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ |
เมษายน |
ค้าขาย รับจ้าง ถางไร่ จักรสาน ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลเตรียมไร่เพื่อการเพาะปลูก ในส่วนที่เหลือก็จะทำงานภายในครัวเรือน และรับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ |
พฤษภาคม |
รับจ้าง ปลูกข้าว ปลูกพืชสวน จักสาน ปลูกข้าวโพด ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูการลงแขก ปลูกข้าวไร่และปลูกข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน และบางส่วนออกไปรับเพื่อหารายได้พิเศษ |
มิถุนายน |
ค้าขาย รับจ้าง ปลูกข้าวไร่ ปลูกข้าวโพด ปลูกพืชผัก ทอผ้า จักสาน เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูการลงแขก ปลูกข้าวไร่และปลูกข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน และบางส่วนออกไปรับเพื่อหารายได้พิเศษ |
กรกฏาคม |
ค้าขาย รับจ้าง หาหน่อไม้ หาเห็ด จักสานไม้ไผ่ ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ในช่วงนี้จะทำงานส่วนตัวโดยส่วนมาก และบางส่วนหารายได้เพิ่มเติม |
สิงหาคม |
ค้าขาย รับจ้าง ปลูกพืช หาหน่อไม้ ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลทำงานภายในครัวเรือน หารับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ บางส่วนก็หาอาหารพื้นบ้านตามสวนหรือป่าใกล้เคียง |
กันยายน |
ค้าขาย รับจ้าง จักสาน ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลทำงานภายในครัวเรือน หารับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ บางส่วนก็หาอาหารพื้นบ้านตามสวนหรือป่าใกล้เคียง |
ตุลาคม |
ค้าขาย รับจ้าง จักรสาน ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลทำงานภายในครัวเรือน หารับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ บางส่วนก็หาอาหารพื้นบ้านตามสวนหรือป่าใกล้เคียง |
ตุลาคม |
ค้าขาย รับจ้าง จักรสาน ทอผ้า เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูกาลทำงานภายในครัวเรือน หารับจ้างทำงานเพื่อหารายได้พิเศษ บางส่วนก็หาอาหารพื้นบ้านตามสวนหรือป่าใกล้เคียง |
|
ค้าขาย รับจ้าง เกี่ยวข้าว ตีข้าว เก็บข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูการลงแขก เพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่าง เช่น ข้าวไร่ ข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน |
พฤศจิกายน |
ค้าขาย รับจ้าง เกี่ยวข้าว ตีข้าว เก็บข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูการลงแขก เพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่าง เช่น ข้าวไร่ ข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน |
พฤศจิกายน |
ค้าขาย รับจ้าง เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าว เก็บข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ |
ช่วงฤดูการลงแขก เพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่าง เช่น ข้าวไร่ ข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน |
ธันวาคม |
ค้าขาย รับจ้าง เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าว ทอผ้า จักสาน เก็บใบตองตึง |
ช่วงฤดูการลงแขก เพื่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่าง เช่น ข้าวไร่ ข้าวโพด ในหมู่บ้านหมุนเวียนกันแต่ละครัวเรือน |
เดือน |
เหตุการณ์ / ปรากฎการณ์ |
ลักษณะของปรากฎการณ์/ผลกระทบ |
มกราคม |
-อาการหนาว |
. เกิดโรคอีสุกอีใสและโรคผิวหนังในหมู่บ้านโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก |
กุมภาพันธ์ |
อากาศมีการเปลี่ยนแปลง |
เกิดโรคหวัดในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก |
มีนาคม |
อากาศร้อน |
-ระดับน้ำในห้วยอุสุโพโกรเริ่มลดลง
- ชาวบ้านเริ่มเผาไร่ ทำให้เกิดหมอกควัน และมีอากาศร้อนอบอ้าว
|
เมษายน |
-เกิดภัยแล้ง |
-ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้ผล เนื่องจากขาดน้ำ
-ชาวบ้านเริ่มหาไข่มดแดงมาบริโภคและจำหน่าย
|
พฤษภาคม |
-เข้าฤดูฝน
-เกิดพายุฤดูฝน
-มีน้ำผึ้ง
-ปลูกพืชสวน
|
-ฝนตกหนักทำให้หน้าดินพังทลาย
-เฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้เลือดออก, โรคมาลาเรีย
-ชาวบ้านเก็บน้ำผึ้งมาบริโภคและจำหน่าย
-ปลูกพืชผักในไร่และในสวน
|
มิถุนายน |
-ฝนตกหนัก กบออกหากิน
-พืชผักในป่ามีมากขึ้น
|
-ชาวบ้านหาจับกบมาบริโภค
-ชาวบ้านเริ่มเก็บหาของป่า(หน่อไม้)ไว้บริโภค และขายเป็นรายได้
|
กรกฏาคม |
-ฤดูฝน |
-พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
-ชาวบ้านเริ่มไถ่หว่านนาปี
|
สิงหาคม |
-ฤดูฝนเกิดพายุฤดูฝน
|
-ชาวบ้านทำนาปี
-พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย
|
กันยายน |
-เห็ดโคน และเห็ดไข่ออก |
-ชาวบ้านเก็บเห็ด เพื่อบริโภคและขายเป็นรายได้เสริม |
พฤศจิกายน |
-เข้าฤดูหนาว |
-อากาศเปลี่ยนแปลง เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก |
ธันวาคม |
-อากาศหนาวและเย็น |
-ไก่เริ่มเกิดโรคระบาด
-ชาวบ้านเริ่มเกี่ยวข้าวนาปี โดยการลงแขก
|