เดือน |
ชื่อวัฒนธรรม ประเพณี |
ลักษณะวัฒนธรรม ประเพณี |
มกราคม |
ทำพิธีกินข้าวใหม่ |
เป็นการเรียกขวัญบ้าน โดยจะเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ที่มีอายุในหมู่บ้าน ทำพิธีมัดมือให้กับลูกหลานในหมู่บ้านตามแต่ละบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตและหมู่บ้าน |
กุมภาพันธ์ |
แต่งงาน |
เป็นการบ่งบอกว่าผู้ที่แต่งงานนั้นมีความรักใครต่อกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน และสร้างครอบครัวให้มีความสุข |
มีนาคม |
เลี้ยงผีหมู่บ้าน |
คนในชุมชนจะนำเครื่องเส้นไหว้ (ไก่ หมู) ไปเลี้ยงผีใหญ่ที่บ้านหมอผีประจำหมู่บ้าน เมื่อเสร็จพิธีก็นำมาเลี้ยงผีที่บ้านตนเอง |
เมษายน |
- มัดมือประจำหมู่บ้าน
- ประเพณีสงกรานต์ |
- ในแต่ละครอบครัวจะทำพิธีมัดมือในบ้านของตนเองและเชิญให้เพื่อนบ้านมาร่วมพิธีและรับประทานอาหารที่บ้านของตนเองซึ่งถ้ามีคนมาร่วมงานมากๆ ถือว่าดีกับเจ้าของบ้าน
- การรดน้ำดำหัวผู้เฒ่า ผู้แก่ในหมู่บ้านและเล่นน้ำสงกรานต์
|
พฤษภาคม |
เลี้ยงผีไร่/ผีนา |
การเลี้ยงผีเกิดขึ้นเมื่อมีการปลูกข้าว เตรียมพื้นที่ในการเพาะปลูก เครื่องเส้นไหว้ คือ ไก่ หมู เหล้าขาว ไก่ที่นำมาทำพิธีต้องเป็นไก่สดยังไม่ตาย เพราะต้องใช้เลือดในการเส้นไหว้ |
มิถุนายน |
เลี้ยงผี/มัดมือ |
เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวอยู่สบายไม่เจ็บป่วย เครื่องเส้นไหว้ คือ ไก่ เหล้าขาว ข้าวสุก ไข่ต้ม |
สิงหาคม |
วันแม่แห่งชาติ |
จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติใน ศศช.ร่วมกับชุมชน |
ธันวาคม |
วันพ่อแห่งชาติ |
จัดบอร์ดวันสำคัญเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ครู นักเรียน คนในชุมชน ร่วมกันพัฒนา ศศช.และชุมชนเพื่อถวายในหลวง |
เดือน |
การทำงาน |
ลักษณะของการทำงาน |
มกราคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ถางไร่เพื่อทำการเกษตร
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ถางไร่เพื่อเตรียมทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่ |
กุมภาพันธ์ |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ถางไร่เพื่อทำการเกษตร
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์
|
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ถางไร่เพื่อเตรียมทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
มีนาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ถางไร่เพื่อทำการเกษตร
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ถางไร่เพื่อเตรียมทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
เมษายน |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ถางไร่เพื่อทำการเกษตร
-ตีผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ถางไร่เพื่อเตรียมทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
เป็นฤดูที่ชาวบ้านจะออกไปหาน้ำผึ้งในป่า เพื่อนำมาผสมเป็นยาสมุนไพร และไว้รับประทาน ช่วง เดือน พ.ค.
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
พฤษภาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกข้าวไร่/ข้าวนา
-ตีผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ถางไร่เพื่อเตรียมทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าวโพด ปลูกพริก
-ป็นฤดูที่ชาวบ้านจะออกไปหาน้ำผึ้งในป่า เพื่อนำมาผสมเป็นยาสมุนไพร และไว้รับประทาน ช่วง พ.ค.
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
มิถุนายน |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกข้าวไร่/ข้าวนา
-ปลูกพืชสวน (พริก มะเขือ ฟักทอง)
-หาหน่อไม้
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ปลูกข้าวไร่ไว้รับประทานตลอดทั้งปี
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง
-หาหน่อไม้ เพื่อนำขาย อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหาร และทำเป็นหน่อไม้ดองได้อีกด้วย
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
กรกฏาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกข้าวไร่/ข้าวนา
-ปลูกพืชสวน (พริก มะเขือ ฟักทอง)
-หาหน่อไม้
-จักสานไม้ไผ่
-ปลูกข้าวโพด
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ปลูกข้าวไร่ไว้รับประทานตลอดทั้งปี
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง
-หาหน่อไม้ เพื่อนำขาย อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหาร และทำเป็นหน่อไม้ดองได้อีกด้วย
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-เป็นฤดูปลูกข้าวโพดเลียงสัตว์เพื่อไว้สำหรับจำหน่ายในช่วง ต.ค.-ธ.ค.
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
สิงหาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกข้าวไร่/ข้าวนา
-ปลูกพืชสวน (พริก มะเขือ ฟักทอง)
-หาหน่อไม้
-จักสานไม้ไผ่
-ปลูกข้าวโพด
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ปลูกข้าวไร่ไว้รับประทานตลอดทั้งปี
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง
-หาหน่อไม้ เพื่อนำขาย อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหาร และทำเป็นหน่อไม้ดองได้อีกด้วย
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-เป็นฤดูปลูกข้าวโพดเลียงสัตว์เพื่อไว้สำหรับจำหน่ายในช่วง ต.ค.-ธ.ค.
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่ |
กันยายน |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกข้าวไร่/ข้าวนา
-ปลูกพืชสวน (พริก มะเขือ ฟักทอง)
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ปลูกข้าวไร่ไว้รับประทานตลอดทั้งปี
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่ |
ตุลาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-ปลูกพืชสวน (พริก มะเขือ ฟักทอง)
-หาเห็ดโคน
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-ปลูกข้าวไร่ไว้รับประทานตลอดทั้งปี
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครอบครัว เช่น พริก มะเขือ ฟักทอง
-เป็นฤดูที่เห็ดโคนเริ่มออก ชาวบ้านจะไปหาเพื่อนำมาประกอบอาหาร ที่เหลืออาจจะนำไปขาย ช่วง ต.ค.
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่ |
พฤศจิกายน |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าว
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-เก็บเกี่ยวข้าวไร่ที่ปลูกไว้ ช่วง มิ.ย.- ต.ค.
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
ธันวาคม |
-ค้าขาย
-รับจ้างภาคการเกษตร
-รับจ้างนอกภาคการเกษตร (ในเมือง)
-เกี่ยวข้าวไร่ ตีข้าว
-จักสานไม้ไผ่
-ทอผ้า
-เลี้ยงสัตว์ |
-ขายของชำ ของป่า
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง ก็ไปรับจ้างทำการเกษตรของผู้อื่น
-ว่างจากงานเกษตรของตนเอง เดินทางไปรับจ้างในเมือง
-เก็บเกี่ยวข้าวไร่ที่ปลูกไว้ ช่วง มิ.ย.- ต.ค.
-เวลาว่างคนในชุมชนจะจักสานผลิตภัณฑ์ใช้สอยด้วยไม้ไผ่ไว้ใช้เอง เช่น ตะกล้า ตะค้อง ชะลอม กระด้งฯลฯ
-ผู้หญิงจะมีการทอผ้าด้วยกี่เอว สำหรับไว้นุ่งห่ม
-เลี้ยงสัตว์ เช่น กระบือ โค หมู ไก่
|
เดือน |
เหตุการณ์ / ปรากฎการณ์ |
ลักษณะของปรากฎการณ์/ผลกระทบ |
มกราคม |
- อากาศมีการเปลี่ยนแปลง
- ชาวบ้านเริ่มจับจองพื้นที่ในการทำไร่
|
- เกิดโรคหวัดในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก
- ชาวบ้านจะเริ่มแผ้วถางป่าทำไร่เพื่อทำการเพาะปลูก
|
กุมภาพันธ์ |
- อากาศมีการเปลี่ยนแปลง
- ถางไร่
|
- เกิดโรคหวัดในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก
- ชาวบ้านเริ่มถางไร่
|
มีนาคม |
- ถางไร่
- ปลายเดือนเริ่มเผาไร่
|
- ชาวบ้านเริ่มถางไร่
- ชาวบ้านเริ่มเผาไร่ ทำให้เกิดหมอกควัน และมีอากาศร้อนอบอ้าว
|
เมษายน |
อากาศเปลี่ยนแปลง |
อากาศร้อนจัด มีการเผาไร่มากขึ้นมีหมอกควันทำให้เด็กในหมู่บ้านไม่สบาย
|
พฤษภาคม |
เข้าฤดูฝน ฝนเริ่มตก |
ชาวบ้านเริ่มปลูกพืชทางการเกษตร มันสำประหลัง ฯลฯ
|
กรกฏาคม |
ปลูกข้าวโพด |
เริ่มมีการปลูกข้าวโพด |
สิงหาคม |
ไถนา |
เริ่มมีการไถนา ขุดนา เพื่อเตรียมว่านกล้า |
กันยายน |
ปลูกข้าว |
เริ่มมีการปลูกข้าว ปลูกพริก พืชผักสวนครัว |
ตุลาคม |
เตรียมตัวเก็บข้าวโพด |
จัดทำที่พักข้าวโพดเพื่ิอป้องกันฝน |
พฤศจิกายน |
เก็บข้าวโพด |
เริ่มการเก็บข้าวโพดที่เริ่มแห้ง |
ธันวาคม |
เก็บเกี่ยวผลผลิต |
เกี่ยวข้าว ตีข้าว |