เดือน |
ชื่อวัฒนธรรม ประเพณี |
ลักษณะวัฒนธรรม ประเพณี |
|
พิธีเรียกขวัญ |
จะกระทำในช่วงปีใหม่ หรือ ช่วงอื่นที่รู้สึกว่าไม่สบายใจ โดยจะใช้ ไข่ หรือ ไก่ เป็นเครื่องสังเวย และจะกระทำโดยผู้นำครอบครัว หรือผู้อาวุโส |
|
ประเพณีจัดการงานศพ |
เป็นพิธีที่มีการจัดให้กับผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งจะมีการจัดการอย่างเป็นลำดับขั้นตอนตั้งแต่สิ้นลมก็จะมีการชี้นำจากผู้อาวุโสให้กลับสู่สถานที่ตนเองเกิด โดยเริ่มจากที่ที่เสียชีวิตในปัจจุบันเพื่อให้วิญญาณของผู้ตายสามารถกลับสู่สถานที่เกิดได้ เมื่อการชี้นำสิ้นสุดก็จะมีการเริ่มพิธีการต่าง ๆ ตามลำดับขั้น ตั้งแต่การขอร้องคนในชุมชนเพื่อให้มาช่วยทำหน้าที่ต่าง ๆ ในพิธี การแจ้งข่าวสารการตายอย่างเป็นทางการแก่ญาติผู้ตาย การกำหนดสถานที่ฝังศพ การล้างมลทินแก่ผู้ตายในคืนสุดท้ายก่อนการนำศพไปฝัง การฝังศพ การส่งข้าวส่งน้ำแก่วิญญาณผู้เสียชีวิต
ในการจัดการงานศพนั้นแต่ละตระกูลก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป เช่น ลักษณะการขุดหลุมฝังศพนั้น บางตระกูลก็จะมีการขุดในลักษณะตัดกับแนวขุนเขา บางตระกูลขุดตามแนวยาวของขุนเขา บางตระกูลมีการนำหินมาเรียงบนหลุมศพ บางตระกูลไม่นำหินมาเรียง
|
เมษายน |
ประเพณีวันสงกรานต์ |
มีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า ของวันที่ 13 เมษายน ในวันที่ 14 เมษายน จะไม่มีการทำบุญหรือทำพิธีต่างๆ เนื่องจากชาวบ้านจะถือว่าวันนี้เป็นวันเน่า คือวันไม่ดี วันที่ 15 เมษายน จะเป็นวันสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุหรือญาติของตนในหมู่บ้าน |
สิงหาคม |
กินข้าวโพดใหม่ |
จะกระทำเมื่อมีผลผลิตในรอบปีออกเป็นครั้งแรก โดยผู้นำครอบครัวจะต้องทำพิธีเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อน แล้วผู้นำครอบครัวจึงจะกินได้ แต่พิธีกรรมนี้จะถือปฏิบัติเฉพาะครอบครัวที่แยกออกจากพ่อแม่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวจะถือปฏิบัติไม่เคร่งครัดนัก สามารถกินผลผลิตที่ปลูกเองหรือของคนอื่นได้ โดยไม่ต้องเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อนก็ได้ |
พฤศจิกายน |
ประเพณีกินข้าวใหม่ |
จะกระทำเมื่อมีผลผลิตในรอบปีออกเป็นครั้งแรก โดยผู้นำครอบครัวจะต้องทำพิธีเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อน แล้วผู้นำครอบครัวจึงจะกินได้ แต่พิธีกรรมนี้จะถือปฏิบัติเฉพาะครอบครัวที่แยกออกจากพ่อแม่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวจะถือปฏิบัติไม่เคร่งครัดนัก สามารถกินผลผลิตที่ปลูกเองหรือของคนอื่นได้ โดยไม่ต้องเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อนก็ได้
ข้าวที่ใช้ในพิธีกินข้าวใหม่ จะมีความพิเศษที่กระบวนการผลิต เพราะชาวบ้านจะ ไปเกี่ยวข้าวที่เริ่มแก่บางส่วน มานวดให้เป็นข้าวเปลือก
|
พฤศจิกายน |
ประเพณีกินข้าวใหม่ |
จะกระทำเมื่อมีผลผลิตในรอบปีออกเป็นครั้งแรก โดยผู้นำครอบครัวจะต้องทำพิธีเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อน แล้วผู้นำครอบครัวจึงจะกินได้ แต่พิธีกรรมนี้จะถือปฏิบัติเฉพาะครอบครัวที่แยกออกจากพ่อแม่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวจะถือปฏิบัติไม่เคร่งครัดนัก สามารถกินผลผลิตที่ปลูกเองหรือของคนอื่นได้ โดยไม่ต้องเรียกผีบรรพบุรุษมากินก่อนก็ได้
ข้าวที่ใช้ในพิธีกินข้าวใหม่ จะมีความพิเศษที่กระบวนการผลิต เพราะชาวบ้านจะ ไปเกี่ยวข้าวที่เริ่มแก่บางส่วน มานวดให้เป็นข้าวเปลือกแล้วนำไปคั่วให้แห้งก่อนการนำไปสีเป็นข้าวสาร ข้าวสารที่ได้จะมีลักษณะเป็นสีเขียวปนน้ำตาล และมีกลิ่นหอม ทำให้ข้าวที่มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ นอกจากนี้การหุงก็จะหุงโดยวิธีการเช็ดน้ำ ทำให้ได้น้ำข้าวที่มีความหอมเป็นพิเศษ มาเสริฟร่วมกับการกินข้าวที่จะมีกับข้าวมื้อพิเศษที่อาจเป็นหมูหรือไก่ |
ธันวาคม |
ประเพณีปีใหม่ |
เรียกเป็นภาษาถิ่นว่า ?เป๊เจาซงเชี้ย? เป็นประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีการเริ่มเฉลิมฉลองในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ของปี พิธีการทางความเชื่อที่มีการปฏิบัติได้แก่
1 การเรียกขวัญสมาชิกในครอบครัว โดยผู้นำครอบครัวหรือผู้อาวุโส
2 การบรวงสรวงเลี้ยงผีบรรพบุรุษในบ้าน
3 การเฉลิมฉลองนอกบ้าน จะมีการจัดกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ และโยนลูกช่วงระหว่างคู่หนุ่มสาว ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้พบปะกัน
|
เดือน |
การทำงาน |
ลักษณะของการทำงาน |
มกราคม |
1. ออกไปทำอาชีพเสริม หรือเช่าพื้นที่เพาะปลูกพืชนอกฤดูในพื้นที่อื่นนอกหมู่บ้าน |
1. ระดับน้ำเหลือน้อยลง ชาวบ้านย้ายพื้นที่ประกอบอาชีพนอกหมู่บ้าน จึงเหลือเพียงเด็กและผู้สูงอายุอยู่เฝ้าบ้านและเรียน |
กุมภาพันธ์ |
เตรียมพื้นที่เพาะปลูก |
มีการถางเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ |
มีนาคม |
เตรียมพื้นที่เพาะปลูก |
ระดับน้ำเหลือน้อยต้องคอยควบคุมการปิดเปิดน้ำ เป็นเวลา และมีการเผาไร่เตรียมพื้นที่เพาะปลูก |
เมษายน |
เตรียมพื้นที่เพาะปลูก |
ระดับน้ำเหลือน้อยต้องคอยควบคุมการปิดเปิดน้ำ เป็นเวลา และมีการเผาไร่เตรียมพื้นที่เพาะปลูก
ชาวบ้านเดินทางกลับมาประกอบอาชีพในพื้นที่
|
พฤษภาคม |
1. เริ่มเข้าฤดูฝน |
1. ฝนตกทำให้ดินเริ่มเกิดความชุ่มชื้น
2. เริ่มมีการเพาะปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และพืชอื่น ๆในพื้นที่
3. เริ่มเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้เลือดออก
|
มิถุนายน |
ฤดูฝน |
1. ชาวบ้านหาประกอบอาชีพการเพาะปลูก
2. ชาวบ้านเริ่มเก็บหาของป่า (หน่อไม้) ไว้บริโภค และขายเป็นรายได้
|
กรกฏาคม |
ฤดูฝน |
1. พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
2. ชาวบ้านเริ่มเตรียมพื้นที่และปลูกถั่วลิสงในป่าข้าวโพด
|
สิงหาคม |
ฤดูฝน |
1. พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น |
กันยายน |
เริ่มเก็บข้าวโพด
มีการเตรียมต้นกล้าและพื้นที่ปลูกมะเขือเทศ
|
เริ่มมีการเก็บข้าวโพดขาย และตัดยอดข้าวโพดในแปลงที่มี
ถั่วลิสงออก
เตรียมต้นกล้าและพื้นที่ปลูกมะเขือเทศ
|
ตุลาคม |
เก็บข้าวโพด |
มีการเก็บข้าวโพด เพื่อเก็บในยุ้ง |
พฤศจิกายน |
เริ่มเข้าฤดูหนาว
เก็บเกี่ยวข้าวไร่ และพริก
|
อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก
ชาวบ้านมีการเก็บเกี่ยวข้าวไร่ และเก็บพริกขี้หนูเพื่อจำหน่าย
|
ธันวาคม |
มีการสีข้าวโพด เก็บถั่วลิสง และพริกขาย |
ชาวบ้านมีรายได้จากการขายผลผลิตทาการเกษตร |