เดือน |
ชื่อวัฒนธรรม ประเพณี |
ลักษณะวัฒนธรรม ประเพณี |
มกราคม |
กินข้าวใหม่ |
ร่วมกันนำอาหารคาวหวามมารวมกันทั้งหมู่บ้านเพื่อทำพิธกินข้าวใหม่เมื่อเสร็จพิธีนำอาหารที่ไปทำพิธีมาแบ่งกันกิน
ทุกคน
|
กุมภาพันธ์ |
แต่งงาน |
เป็นการบ่งบอกว่าผู้ที่แต่งงานนั้นมีความรักใคร่ด้วยกันต่อกัน พร้อมที่จะดำเนินชีวิตร่วมกัน และพร้อมที่จะสร้าง
ครอบครัวด้วยกัน
|
เมษายน |
ประเพณีวันสงกรานต์ |
มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุหรือญาติของตนในหมู่บ้าน |
กรกฏาคม |
ประเพณีผูกข้อมือประจำปี |
ชาวบ้านในหมู่บ้านแต่ละครอบครัวจะมีพิธีผูกข้อมือประจำปีให้กับลูกหลาน |
สิงหาคม |
วันแม่แห่งชาติ |
จัดพระบรมฉายาลักษณ์และสมุดลงนามถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มาร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ |
ตุลาคม |
บูรณะซ่อมแซมวัดในวันออกพรรษา |
ชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมกันทำความสะอาดบริเวณวัดและบูรณะซ่อมแซมสำนักสงฆ์บ้านห้วยหมาบ้า-ทีโพฉิโกล |
|
วันลอยกระทง |
จัดพระบรมฉายาลักษณ์และสมุดลงนามถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ |
ธันวาคม |
วันพ่อแห่งชาติ |
จัดพระบรมฉายาลักษณ์และสมุดลงนามถวายพระพร เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านได้มาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ |
พฤศจิกายน |
วันลอยกระทง |
จัดกิจกรรมลอยกระทงในหมู่บ้าน |
เดือน |
การทำงาน |
ลักษณะของการทำงาน |
มกราคม |
พิธีมัดมือเรียกขวัญวันขึ้นปีใหม่ 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
นิยมทำทุกบ้าน ทำแต่ละบ้านของตนเอง |
กุมภาพันธ์ |
วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
มีนาคม |
ถางไร่ เพื่อปลูกข้าว 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านได้ร่วมกันลงแขกถางไร่ในแต่ละปีเพื่อจะดำเนินการทำไร่ 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
เมษายน |
ประเพณี ฮิซอโคะ 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
เป็นประเพณีมัดมือทั้งหมู่บ้านพร้อมกันและมีแก่นบ้านต้องไปทำพิธีทุกบ้านและถือว่าเป็นการมัดมือเรียกขวัญให้ชาวบ้านในชุมชนทุกคนและเป็นการทำบุญบ้านด้วย 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
พฤษภาคม |
ลงแขกทำไร่ หว่านพืช 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านจะช่วยกันลงแขก หว่านพืชไร่ ต้อนรับฤดูฝนและการดูแลพืช 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
มิถุนายน |
เลี้ยงผีไร่ 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านมีความเชื่อว่าไร่ที่เราปลูกพืชนั้นมีเจ้าของหรือผี เทวดาอาศัยอยู่เพื่อให้เขาช่วยดูแลพืชพรรณที่ปลูกเป็นการตอบแทน เป็นต้น 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
กรกฏาคม |
วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
สิงหาคม |
วันแม่แห่งชาติ 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ 3.มัดมือลาคุปู |
ชาวบ้านถือว่าเป็นวันของแม่แผ่นดินเพื่อเป็นการตอบแทนจำตอบแทนโดยการพัฒนาชุมชนของตน 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน 3.เป็นประเพณีมัดมือทั้งหมู่บ้านพร้อมกันและมีแก่นบ้านต้องไปทำพิธีทุกบ้านและถือว่าเป็นการมัดมือเรียกขวัญให้ชาวบ้านในชุมชนทุกคน |
กันยายน |
.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
ตุลาคม |
วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
พฤศจิกายน |
ลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ 2.วันหยุดทุกวันเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและแรม 15 ค่ำ |
เมือพรรณพืชอุดมสมบูรณ์ออกดอกออกผลสุขพร้อมที่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะถึงเก็บเกี่ยว 2.ชาวบ้านถือว่าได้ทำงานมาหนึ่งเดือนที่อาศัยธรรมชาติและเหน็ดเหนื่อยจึงหยุดเพื่อปรึกษาหารือและสัมพันธ์กับชุมชนด้วยกัน |
ธันวาคม |
เรียกขวัญข้าว |
เมื่อชาวบ้านเก็บเกี่ยวพรรณพืชแล้วถือว่าข้าวใหม่ได้กลับสู่บ้านจึงจัดพิธีต้อนรับเป็นการเลี้ยงเรียกขวัญข้าวฯ |
เดือน |
เหตุการณ์ / ปรากฎการณ์ |
ลักษณะของปรากฎการณ์/ผลกระทบ |
มกราคม |
อากาศมีการเปลี่ยนแปลง |
อากาศหนาว เกิดโรคหวัดในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กมีขี้มูกไหล |
กุมภาพันธ์ |
อากาศมีการเปลี่ยนแปลง |
อากาศหนาว เกิดโรคหวัดในหมู่บ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กมีขี้มูกไหล |
มีนาคม |
เกิดภัยแล้ง
|
ระดับน้ำในลำห้วยห้วยหมาบ้าเริ่มลดลง ระบบประปาภูเขามีน้ำไหลไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในหมู่บ้านและศศช. |
เมษายน |
เกิดภัยแล้ง
|
ระดับน้ำในลำห้วยห้วยหมาบ้าเริ่มลดลง ระบบประปาภูเขามีน้ำไหลไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในหมู่บ้านและศศช.บ้านห้วยหมาบ้าไม่สามารถปลูกพืช-ผักได้ |
พฤษภาคม |
- เริ่มเข้าฤดูฝน
- เกิดพายุฤดูฝน
|
- ฝนตกทำให้ดินเริ่มเกิดความชุ่มชื้น
- ทำให้ต้นกล้วยน้ำว้าหักล้ม สร้างความเสียหายในการเกษตรของศศช.บ้านห้วยหมาบ้า
|
มิถุนายน |
- ฝนตกมากขึ้น มีเห็ดถอบออก
- เริ่มมีของป่า (หน่อไม้) มากขึ้น
|
- ชาวบ้านหาเก็บเห็ดถอบมาบริโภคและขายเป็นรายได้เสริม
- ชาวบ้านเริ่มเก็บหาของป่า (หน่อไม้) ไว้บริโภค และขายเป็นรายได้เสริม
|
กรกฏาคม |
ฤดูฝน |
- พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
- ชาวบ้านถางหญ้าในไร่ข้าว
|
สิงหาคม |
ฤดูฝน |
- พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
- ชาวบ้านถางหญ้าในไร่ข้าว
|
กันยายน |
ฤดูฝน |
- พื้นที่การเกษตรมีความชุ่มชื้น
- ชาวบ้านถางหญ้าในไร่ข้าว
|
ตุลาคม |
เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวไร่ |
-ชาวบ้านเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวไร่ที่ปลูกไว้โดยการลงแขกเกี่ยวเอาแรงกัน |
พฤศจิกายน |
เริ่มเข้าฤดูหนาว |
อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะไข้หวัดในกลุ่มเด็ก |
ธันวาคม |
อากาศมีความหนาวเย็น |
ชาวบ้านมีความต้องการเครื่องนุ่งห่มที่มีความอบอุ่นมากๆ |